iRobot
ถึงเวลาทำความสะอาดห้องอีกแล้ว . . . แต่กว่าเราจะทำเสร็จก็ต้องใช้เวลาประมาณนึงเลยเนอะ
ลองเปลี่ยนจากใช้ไม้กวาด หรือ เครื่องดูดฝุ่นปกติมาเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่น
กลายเป็นมีเวลาว่างเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
แล้วมิกิเพิ่งได้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวใหม่มา เครื่องนี้เขาฉลาดมาก แบบยิ่งใช้ ยิ่งฉลาด
เป็นตัวช่วยทำความสะอาดบ้านที่หลาย ๆ คนน่าจะชอบมาก ๆ เหมือนกันนะคะ
ตัวนี้เป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดบ้าน iRobot Roomba i2 เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดค่ะ
นิยามใหม่ของการทำความสะอาดที่จะคืนเวลาให้ชีวิต
มาดูอุปกรณ์ในกล่องกัน ว่ามีอะไรบ้าง
1. ใบรับประกัน
2.ใบแนะนำการเริ่มต้นใช้งาน
3. คู่มือการใช้งาน ( มีภาษาไทย )
4. แท่นชาร์จ
5. สายไฟ
6. iRobot Roomba i2
7. ฟิลเตอร์ มี 2 อัน ( อยู่ในเครื่องแล้ว 1 อัน )
ฟิลเตอร์รุ่นนี้กรองฝุ่นเล็ก ๆ ได้ถึง 1 ไมครอน
( ควรเปลี่ยนทุก 2 เดือน เพื่อให้ประสิทธิภาพการกรองดีที่สุดค่ะ )
ตัวเครื่อง Roomba i2 จะเป็นสี Ash ( เทาอ่อน ) ตัดขอบด้วยสีดำ
ดีไซน์เรียบ ๆ สวยดี วางเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้เลยนะ
ด้านบนจะเป็นปุ่มควบคุมการใช้งาน มีอยู่ 3 ปุ่ม
ปุ่ม Home = ให้เครื่องกลับไปที่แท่าชาร์จ
ปุ่ม Clean = เปิด – ปิด เครื่อง
ปุ่ม Spot = สำหรับทำความสะอาดบริเวณที่มีสิ่งสกปรกมาก
ปุ่มน้อยดูแล้วใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากดี
ตัวถังเก็บฝุ่น ถอดออกมาได้
ฟิลเตอร์จะติดอยู่กับถัง เราดึงออกมาทำความสะอาดได้ ใช้เคาะ ๆ ให้ผงหลุดออกมา
ส่วนตัวถัง ถ้าสกปรกมากให้ถอดฟิลเตอร์ออกมาก่อน เพราะตัวฟิลเตอร์เป็นกระดาษโดนน้ำไม่ได้
แล้วเอาถังไปล้างน้ำได้ค่ะ
พอแห้งสนิทแล้วใส่ฟิลเตอร์แล้วประกอบกลับตัวเครื่องได้เลย
ด้านล่างของเครื่องจะเป็นแบบนี้ สีเขียวตัดสีดำ สวยไปอีกแบบ
มีเซ็นเซอร์รอบทิศทางมากกว่า 30 จุด ตรงนี้คือเวลาที่เราใช้งาน เครื่องจะเดินเป็นเส้นตรงอย่างมีระเบียบ
เข้าถึงพื้นที่ทำความสะอาดได้ทั่วถึงเลย
ตรงนี้เขาจะเป็นระบบทำความสะอาด 3 ขั้นตอน
ปัด – ตัก – ดูด
ทำความสะอาดได้รอบทิศทาง
ปัด
ตรงนี้จะเป็นแปรงปัดข้าง ช่วยปัดพวกฝุ่นตรงขอบกำแพง ขอบเฟอร์นิเจอร์ ตามซอกมุมที่เครื่องเข้าไม่ถึง
ถอดออกมาทำความสะอาดได้
ตัก
ตรงแปรงยางคู่ จะทำหน้าที่คล้าย ๆ กับช้อน ส้อม
คือจะตักพวกฝุ่น เศษสิ่งสกปรกเข้าไปแล้วเก็บที่ถึงเก็บขยะ
ดูด
Roomba i2 มีแรงดูดทรงพลังถึง 10 เท่า ดูดทำความสะอาดได้เรียบกริบ
ล้อ จะเป็นระบบสปริง บริเวณไหนที่เป็นพื้นที่ไม่เรียบ หรือ ขรุขระนิดหน่อย
เครื่องก็ยังเดินทำงานได้ดี
ตอนที่ทดลองใช้ เครื่องปีนพวกสิ่งกีดขวางได้ดีมาก ๆ ( ดูในคลิปได้นะคะ )
แปรงคู่ถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย ๆ เลยค่ะ
ใช้ผ้าเปียกเช็ดหรือล้างก็ได้ ถ้ามีพวกเส้นผมติดอยู่ตรงขั้วก็เอามือหยิบออกมาทิ้ง
แล้วประกอบกลับเข้าที่เดิม
ตำแหน่งวางของตัวแท่นชาร์จ กับ Roomba i2
ถ้าใช้งานครั้งแรก ให้ชาร์จเครื่องไว้ก่อน 3 ชั่วโมงค่ะ
ดูไฟที่ปุ่ม Clean
ไฟสีแดงกระพริบ = แบตใกล้หมด หรือ หมดแล้ว
ไฟสีขาวกระพริบ = กำลังชาร์จไฟ
ไฟสีขาวค้าง = แบตเต็มพร้อมใช้งาน
ชาร์จ 1 ครั้ง ประมาณ 90 นาที ใช้งานได้ 75 นาที
ตรงนี้ถ้าเกิดว่าเครื่องทำความสะอาดพื้นเรียบร้อยแล้ว แต่แบตยังไม่หมด
เขาก็จะกลับไปที่แท่นชาร์จเองอัตโนมัติ
การใช้งาน Roomba i2 ทำได้ 2 แบบ คือเราจะสั่งงานผ่านตัวเครื่องเลย
หรือว่าเราจะสั่งงานจาก Application ผ่าน Wi-Fi จากที่ไหนในโลกก็ได้
การติดตั้ง Application
ก่อนอื่นโหลด App iRobot Home มาก่อน ได้ทั้ง ios และ Android
ดูวิธีเชื่อมต่อ > Wi-Fi iRobot Roomba i2
ขั้นตอน Setup
เราต้องเปิด Wi-Fi ก่อน
1. กดไปตามขั้นตอนในรูป
2. เลือก Vacuum Robot
3. เลือกรุ่นของหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ให้เราเลือกอันที่เป็น Roomba i
• กรณีที่เอาเครื่องไปใช้ในที่ไม่มี Wi-Fi •
ให้ใช้มือถือของเพื่อน เปิด Personal Hotspot แทนเร้าเตอร์
แล้วก็เชื่อมต่อระหว่าง Roomba i2 กับ มือถือเราได้เลยค่ะ
4. กด Yes, continue
5. ใส่ Password ของ Wi-Fi ที่เราเชื่อมต่ออยู่
6. มาที่ตัว Roomba i2 กดปุ่ม Home กับ Spot พร้อมกัน ค้างไว้ 2 วินาที จนมีเสียง
กดติ๊กถูก I pressed the buttons ที่หน้าจอ แล้วกดปุ่ม Continue
7. กด Join แล้วรอ
8. พอเครื่องเชื่อมต่อกับ Wi-Fi เรียบร้อยแล้ว ให้เราตั้งชื่อเครื่องได้ค่ะ
เผื่อว่ามีหลายเครื่องเราจะได้เลือกใช้เครื่องถูก
เท่านี้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นก็พร้อมทำงานผ่านแอพพลิเคชั่นแล้ว
ตรงนี้เป็นหน้าจอสำหรับสั่งงานผ่าน App
กดสั่งทำงานได้ทันที
จะตั้งเวลาไว้ก็ได้ ทั้งวัน – เวลา ที่จะให้เครื่องทำงาน
หรือเลือกแบบ Automation ( ระบบอัตโนมัติ )
มีข้อความแจ้งเตือน คำแนะนำ ฟีเจอร์ใหม่ หรือ แจ้งเตือนการบำรุงรักษา
ดูประวัติการใช้งานได้
จะมีรายงานบอกว่าทำความสะอาดที่จุดไหน / ที่ไหนสกปรกมาก / ต้องการทำความสะอาดซ้ำไหม
ตั้งโหมดห้ามรบกวน
โหมดล็อค กันเด็ก หรือ สัตว์เลี้ยงไปกดโดนปุ่มเครื่อง
ตรงนี้เราตั้งค่าได้ตามที่เราต้องการในแต่ละวัน หรือ ตามสถานการณ์ผ่านทาง App ได้เลย
Roomba i2 ทำความสะอาดพื้นที่ได้กว้าง 150 ตรม. ต่อการชาร์จเครื่องเต็ม 1 ครั้ง
ก็ถือว่ากว้างเลยนะ เพราะว่าคอนโดปกติก็กว้างแค่ประมาณ 30-50 ตรม. เอง
พอเครื่องทำงานเสร็จแล้วก็จะกลับไปที่แท่นชาร์จเอง
ถ้าเกิดพื้นที่ทำความสะอาดเกิน 150 ตรม. พอแบตจะหมด เครื่องจะกลับไปที่แท่นชาร์จ
พอชาร์จเต็มแล้วก็จะกลับไปทำงานต่อที่จุดเดิมเมื่อกี้
ถ้าเจอที่ฝุ่นเยอะ ๆ ตัวเซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นละออง Dirt Detect Sensor ( มีแค่ในหุ่นยนต์ดูดฝุ่นของ iRobot เท่านั้น ) ตรวจเจอ
เครื่องจะกลับไปทำงานซ้ำเองเลย จนกว่าจะสะอาด
การทำความสะอาดพื้น
โหมดปกติ
Roomba i2 จะเดินเป็นเส้นตรง แล้วแต่ละรอบเขาจะมีพื้นที่ทำความสะอาดทับซ้อนกันนิดหน่อย
จะได้เก็บฝุ่นได้เกลี้ยงที่สุด
โหมด Spot
สำหรับเน้นจุดที่สกปรกมาก ๆ เครื่องจะวนรอบจุดนั้นเป็นวงกลม จากวงเล็กไปวงใหญ่ แล้ววนกลับเข้ามา
เน้นย้ำให้พื้นสะอาดเรียบร้อยจริง ๆ
ถ้าเจอพื้นที่ต่างระดับ เช่นบันได เซ็นเซอร์จะทำงาน เครื่องจะเดินออกไปทางอื่นแทน ไม่ให้ตกบันได
ใช้งานตรงรอยต่อระหว่างพื้นกับพรม ธรณีประตู หรือส่ิงกีดขวางเตี้ย ๆ ได้ดีมาก ๆ
ส่วนบริเวณที่เข้าถึงยากอย่างใต้โต๊ะ ใต้เตียงก็ทำความสะอาดได้เรียบร้อยเหมือนกัน
( แต่ต้องสูงเกิน 10 ซม. ขึ้นไป )
บ้านที่มีสัตว์เลี้ยงมีขน อย่างน้องหมา แมว กระต่าย หนู
เวลาที่น้องเขาเกาตัว หรือ สะบัดตัว ขนก็ร่วงลงพื้นตลอดทั้งวัน
ยิ่งช่วงไหนผลัดขนนี่คือความสยองเลย ขนฟุ้งเต็มบ้านไปหมด ต้องดูดฝุ่นตลอดทั้งวัน
ที่บ้านมิกิแค่เก็บขนคุณฟูจีจี้อย่างเดียวก็แทบหมดเวลาไปทั้งวันแล้ว
พอดูดฝุ่นจนรู้สึกว่าสะอาดเรียบร้อยแล้ว มาดูผลงานกันค่ะ
วิธีเปิด ให้กดตรงปุ่มที่มีรูปถังขยะ แล้วหยิบถังเก็บฝุ่นออกมา
งงเลย ห้องเพิ่งจะทำความสะอาดไป แต่ . . . ทำไมฝุ่นที่ดูดมาได้ยังเยอะขนาดนี้
มีทั้งเศษผม ฝุ่น เศษขนม เกล็ดน้ำตาลที่ใช้ทดลองการดูด แล้วก็มีฝุ่นเล็กละเอียดมาก ๆ
ที่น่ากลัวคือพวกฝุ่นเล็ก ๆ ที่เรามองไม่เห็นนี่ล่ะ เป็นอีกสาเหตุนึงเลยที่ทำให้เกิดภูมิแพ้
ยิ่งถ้าบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงแล้วน้อง ๆ นอนที่พื้น ฝุ่นพวกนี้ก็เป็นอันตรายแฝงเหมือนกัน
อันนี้เทียบกันระหว่าง ก่อนดูดฝุ่น / ดูดเสร็จแล้ว
พวกฝุ่น ผง เส้นผม เศษขยะเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงพื้นหายเรียบ พื้นสะอาดขึ้นเยอะมาก
ลองเอานิ้วไปรูด ๆ ที่พื้นก็ไม่มีฝุ่นติดขึ้นมาเลย
ถ้าทำแก้วแตก เราเก็บเศษแก้วชิ้นใหญ่ ๆ เรียบร้อยแล้ว
ใช้ Roomba i2 ช่วยดูดพวกเศษแก้วเล็ก ๆ ที่เรามองไม่เห็นก็ได้ด้วยนะคะ
บ้านมิกิเลี้ยงน้องหมา เลยกลัวว่าเศษแก้วเล็ก ๆ จะไปทิ่มเท้าน้องเลยต้องเก็บให้สะอาดจริง ๆ
อันนี้เก็บได้ดีกว่าใช้ไม้กวาดเยอะมาก ๆ
คุณฟูจีจี้ปกติจะกลัวทุกอย่างที่ทำให้เสียงดัง แต่ Roomba i2 คุณฟูไม่กลัวสักนิด
มีหวงของด้วยนะ แบบอันนี้ของฟู ห้ามใครแย่ง !!
ความฉลาดอีกอย่างนึงของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นนี้ คือใช้งานร่วมกับหุ่นยนต์ถูพื้น Braava Jet m6 ได้
มีเทคโนโลยี Imprint Link คือพอดูดฝุ่นเสร็จปุ๊บ กลับเข้าแท่นชาร์จ ก็จะส่งสัญญาณไปที่หุ่นยนต์ถูพื้น ให้ออกมาทำงานต่อเลย
สั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistsant , Alexa หรือ Siri ได้ด้วย
ข้อควรระวังในการใช้
• เซ็นเซอร์กันตก จะทำงานเมื่อพื้นที่ต่างระดับ 10 ซม. ขึ้นไป
• หุ่นยนต์ดูดฝุ่นไม่สามารถทำงานบริเวณที่มีน้ำ หรือ มีความชื้นสูงได้
• ข้ามสิ่งกีดขวาง หรือ พรมมีขนสูงได้ไม่เกิน 1.5 ซม.
• แท่นชาร์จ ควรวางห่างจากผนัง ประตู หรือสิ่งกัดขวาง อย่างน้อย 1.5 ม.
• หุ่นยนต์จะเดินชนผนังหรือเฟอร์นิเจอร์ เพื่อตรวจสอบวัตถุ ไม่ควรวางสิ่งที่แตกหักง่ายเอาไว้บนทางเดิน
• ก่อนเริ่มทำความสะอาดควรเก็บสิ่งของเล็ก ๆ ที่พื้นก่อน จะได้ไม่ขัดขวางการทำงานของหุ่นยนต์
มิกิคิดว่า iRobot Roomba i2 เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ฉลาดมาก คิดแทนเราได้เลย
เรายิ่งใช้บ่อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งรู้จักบริเวณที่ทำความสะอาดมากขึ้น
ทำให้ยิ่งใช้เวลาทำความสะอาดเสร็จเร็วขึ้นด้วย
เก็บฝุ่นได้เรียบร้อยดี รู้ด้วยว่าจุดไหนสกปรกมากต้องดูดเพิ่ม ก็จะไปดูดเองอัตโนมัติ
ควบคุมการทำงานผ่านตัวเครื่องได้ เชื่อม Wi-Fi คุมผ่าน Application ก็ได้
ทั้งดีไซน์ – สี สวยดี วัสดุก็แข็งแรง
เหมาะกับการใช้งานทั้งคอนโด บ้าน โดยเฉพาะที่มีสัตว์เลี้ยงด้วยค่ะ
พอมี Roomba i2 ก็ทำให้ประหยัดเวลาในการทำความสะอาดบ้านไปได้เยอะ
เราเอาเวลาตรงนี้ไปทำสิ่งที่เราอยากทำได้ตั้งหลายอย่าง
ลืมเรื่องต้องหยิบไม้กวาด หรือ เอาเครื่องดูดฝุ่นออกมาเดินทำความสะอาดไปได้เลย
เพื่อน ๆ ที่ดูรีวิวนี้แล้วสนใจ อยากจะไปดูสินค้าจริงของ iRobot
ไปดูที่โชว์รูม วิภาวดีรังสิต 22 หรือ ช้อป iRobot Care เมกา บางนาชั้น 2 ได่นะคะ
หรือจะดูข้อมูล โปรโมชั่น
Web : https://www.irobotthailand.com
Facebook : https://www.facebook.com/iRobotThailand
