
Wagyu Lab J produced by Channel J
ร้านอาหารญี่ปุ่นทองหล่อ ร้านนั่งชิลทองหล่อ ที่เพิ่งจะเปิดได้ไม่นานนี้เอง
ที่นี่มีเมนูแบบ Set ที่รวมจานเด็ดของร้านนี้ รวมเนื้อเกรดพรีเมี่ยมระดับ A5 ไว้ด้วยนะ
ถ้าพูดถึงเนื้อโดยเฉพาะวากิว มิกิว่าหลาย ๆ คนน่าจะชอบความนุ่ม ความสวยของมันลายหินอ่อน
ย่างไฟแล้วได้กลิ่นหอม ๆ เข้าปากแล้วแทบละลายใช่ม๊า
ที่นี่เนื้อดีมาก เมนูฟิวชั่นอื่น ๆ ก็อร่อย
ว่าแต่ตอนนี้เราเข้าไปในร้านพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า เริ่มหิวแล้ว . . .



Lunch Set
กับเมนูใหม่ ๆ ที่เพิ่งออกมา

เป็นเนื้อวากิวหั่นหยาบย่าง ปรุงด้วยคัตสึซอสรสเข้มข้น กับผักสลัด วางในขนมปังโฮมเมด

สเต็กวากิวชิ้นใหญ่ เสิร์ฟกับสลัด มันบดทรัฟเฟิล
เซท King of Meat น่ากินมากกกกก รวมวากิวตัวท็อปเอาไว้ด้วยกัน
มีแค่วันละ 5 เซทเท่านั้นด้วย

คนรักเมนไทโกะ น่ามาลองนะ ดูน่ากินทุกเมนูเลย

ราคาแค่ 250 บาท กับ 350 บาทเท่านั้นเอง
( ไม่รวม service charge และ VAT7% )
เริ่มขายเวลา 11:00 น. – 15:00 น.



• Lab J Punch
• Watermelon Dango
• Snow Butterfly
• Zen Garden
• Passion’s Bee
• Purple Bubble
• Rod phol la Mhai


รสหวาน เปรี้ยว ซ่า สดชื่น ๆ แบบผลไม้กับสมุนไพร
มีส่วนผสมของแอปเปิ้ล, มะนาว, ตะไคร้, ขิง

เป็นน้ำสับปะรด หวานอมเปรี้ยว ใส่พริกเกลิอมีความเผ็ดนิด ๆ แปลกแต่อร่อยดีนะ


เดี๋ยวลองชิมก่อนว่าซอสแต่ละรสจะเป็นยังไงบ้าง

รสหวานนุ่ม หอมเมนไทแบบกำลังดี

คือรวม 2 อย่างไว้ด้วยกัน
จะได้รสหวาน นุ่ม กับ รสเปรี้ยว หอม มัน ความครีมมี่ปานกลาง
มิกิชอบอันนี้มากที่สุดใน 3 อย่างนะ

รสออกเปรี้ยวนิด ๆ ของมะเขื่อเทศ กับกลิ่นหอมของ shrimp oil + Lobster


นั่งรอสักพัก เมนูแรกก็ออกมาแล้ว . . .

เป็นสลัดที่รวมผักไว้หลายอย่าง ทั้งผักสด ผักต้ม มีกระเจี๊ยบ พริกหวาน เลมอน
พอนสึยูซุเจลลี่แผ่นบาง ๆ ก็อร่อยเปรี้ยวสดชื่น
หอยเชลส์ฮอกไกโด ชิ้นใหญ่ สด หวาน ๆ
ราดด้วยน้ำสลัดโชยุกับงา ตัวน้ำสลัดเข้มข้น รสชาติต่างจากร้านอื่น ๆ อร่อยแบบมีเอกลักษณ์ดี
ท็อปด้วยไข่แซลมอน



เนื้อวากิวสีสวย เบิร์นมาเบา ๆ ท็อปด้วยคาร์เวียร์กับซอสฟัวกราส์
รสชาติแบ่งออกเป็นเลเยอร์ ตอนแรกจะได้รสหอมนัว ๆ มัน เค็ม ของคาเวียร์ กับ ซอสฟัวกราส์
ตามด้วยความหอม หวาน ฉ่ำของเนื้อวากิว ตบท้ายด้วยข้าวปั้นนุ่ม ๆ

แล้วใช้น้ำส้มสายชูดำจากญี่ปุ่น ซอสตัวนี้จะนิยมในหมู่เชฟมิชลิน กับ เชฟโอมากาเสะ
ถือว่าพิเศษนะ เพราะร้านทั่ว ๆ ไปไม่ค่อยมี

อร่อยนุ่มมากกกกก

เป็นซุปปลาแห้ง รสชาติกลมกล่อมดี


วากิวเบิร์นพันหน่อไม้ฝรั่ง ท็อปด้วย ฟัวกราส์ซอส แอปเปิ้ลซอส คาเวียร์

รสชาติหอม หวาน เค็ม มัน แบบเข้มข้นดีมาก ๆ เลย



เมนูนี้ตอนที่กินก็คิดอยู่ในใจว่า จะเรียกว่าเป็นของคาว หรือ ของหวานดี
เป็นการรวมตัวกันที่ . . . แปลก แต่เดี๋ยวไปลองก่อนว่ารสชาติจะออกมาเป็นแบบไหนนะ


ทีนี้พอกินกับมะพร้าวอ่อน ที่มีรสหวาน มัน
มีซอสราสเบอรี่ หวานอมเปรี้ยว กลิ่นหอมสดชื่น และ ช็อกโกแลต
กลายเป็นว่าอร่อยมาก ดีมาก ให้ความรู้สึกเต็มคำ
เป็นเมนูที่ถ้าสายฟัวกราส์มาแล้วควรสั่งเบิ้ลค่ะ

มาแบบเป็นเกร็ดฟู ๆ รสเปรี้ยวกำลังดี หวานนิด ๆ
กินปรับรสที่ลิ้นกันก่อน จะได้รับรสเนื้อได้แบบเต็ม ๆ

เป็นเมนูที่มีเนื้อ 3 ชนิด เสิร์ฟมาพร้อมกันในจานเดียว
◗ F1 Tajima Wagyu
◗ Kobe wine A5
◗ Kagoshima Wagyu A5
เอ๊ะ . . . แล้วเนื้อวากิว A5 คืออะไร แต่ก่อนก็เคยสงสัยอยู่เหมือนกันว่านะทำไมเพื่อนสายเนื้อถึงรักเนื้อ A5 กันจัง
ก็เลยไปหาข้อมูลอ่านเพิ่ม คือ A1 – A5 เป็นระดับของเนื้อวากิว
เนื้อ A1 เป็นระดับที่ต่ำสุด จะมีไขมันน้อย
ขั้นด้วย A2 – A3 – A4 ตามลำดับ
เนื้อ A5 เป็นระดับที่ดีสุด ไขมันเยอะแทรกเป็นลายหิวอ่อนสวย และเป็นไขมันดี
เพราะแบบนี้ทั้งรสชาติ รสสัมผัสของเนื้อ A5 เลยเป็นจานโปรดของสายเนื้อหลาย ๆ คน
เนื้อ F1 คืออะไรล่ะ
มิกิก็ไปหาข้อมูลมาจากหลาย ๆ ที่ก็สรุปได้ว่า หมายถึงเนื้อของวัวลูกครึ่ง ที่รวมวากิว กับ วัวพันธุ์ทั่วไปไว้ด้วยกัน
จะได้จุดเด่นของวัวทั้ง 2 แบบมารวมกันนะ
ส่วนการย่าง ที่นี่จะย่างเนื้อด้วยเตาถ่านไม้โกงกาง
เราชอบความสุกแบบไหนบอกเชฟได้เลย
หรือ
ถ้าเกิดว่าอยากสั่งเมนูเนื้อ แต่ไม่รู้จะเลือกแบบไหน ปรึกษาเชฟได้
เชฟประสบการณ์เยอะ แนะนำได้ดีเลยค่ะ


เนื้อจะวางเรียงตามนี้ F1 Tajima Wagyu > Kobe wine A5 > Kagoshima Wagyu A5
ตอนที่กินก็ให้เริ่มกินตามลำดับจากซ้าย ไป ขวา

แล้วคำต่อไปค่อยกินกับเครื่องจิ้ม


เป็นเนื้อที่หอม นุ่ม มีความหยุ่น ๆ มันแทรกปานกลาง รสมัน เข้มข้น


เป็นเนื้อเกรดที่ดีที่สุด เนื้อหอม นุ่มมาก มีความหวานฉ่ำ มันแทรกแบบนุ่มละมุน
เหมาะกับคนที่ชอบเนื้อรสเข้มข้น แต่ให้ความรู้สึกเบา ๆ
เนื้อวัวสายพันธุ์นี้มีความพิเศษตรงเขาจะใช้กากองุ่น ( ที่ใช้หมักไวน์ )

ตรงนี้เป็นไขมันที่ดี ที่มีโอเมก้า 3 กินแล้วไม่ต้องกังวล

เนื้อหอม นุ่มมาก รสชาติจะออกไปทางเข้มข้น เหมาะกับคนที่ชอบรสเนื้อแบบเต็ม ๆ จัด ๆ เต็มปากเต็มคำ
ไขมันที่แทรกมาในเนื้อมีความนุ่มละลาย รสชาติมัน ๆ อน่อย


เกลือไวน์แดง : เป็นความเค็มที่มีความหวานแทรกอยู่ด้วย แล้วก็กลิ่นหอมเบา ๆ ของไวน์แดง
เกลือหิมาลายัน : เค็มเหมือนเกลือปกติ แต่ว่าจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่า
พริกไทยกำปอต : เป็นพริกไทยที่หอมที่สุด และแพงที่สุด กลิ่นหอม ไม่เผ็ดมาก
หอมสับ : เป็นหอมที่กลิ่นไม่ฉุนมาก มีความหวาน ๆ แสบ ๆ
วาซาบิสด : ได้ความเป็นวาซาบิแบบหอมเข้ม จิ้มได้ก้อนใหญ่ ๆ ให้ได้รสแบบเต็ม ๆ เพราะว่าไม่ได้ฉุนขึ้นจมูกมาก
มัสตาร์ด : จะมีพริกไทยญี่ปุ่นดอง กับ เม็ดมัสตาร์ด มาด้วย รสเปรี้ยว หวานแบบกลม ๆ ลงตัวดี พอกัดโดนเม็ดมัสตาร์ดก็จะมีความเผ็ดนิด ๆ แทรกมา
พอนสึยูซุเจลลี่ : รสเปรี้ยว หวาน มีความหอมของยูซุด้วย กินแล้วสดชื่นมาก เวลาที่กินกับเนื้อจะมีความกลมกลืนกันมากที่สุด
กระเทียมดำ : เป็นสูตรของทางร้าน ไม่เหมือนที่อื่น ความรู้สึกเหมือนกินบ๊วย หวาน ๆ เปรี้ยว ๆ อร่อยดี
ส่วนตัวที่เป็นครีม ( มิกิจำชื่อไม่ได้ ) : รสนุ่ม ๆ มัน ๆ หอม ๆ ครีมมี่มาก ๆ แต่ไม่เลี่ยนนะ ( ป๊าชอบอันนี้มากสุด ) กินเปล่า ๆ ก็อร่อย

เพราะว่าเชฟมีปรุงรสใส่เกลือ พริกไทยมาให้นิดหน่อยอยู่แล้ว
แต่ถ้าต้องเลือกมิกิชอบจิ้มกับเกลือไวน์แดงมากที่สุด คือ เป็นรสเค็มที่มีความหวานหอมเบา ๆ ของไวน์แดง
เข้ากับเนื้อดีมาก ๆ
แต่รวม ๆ แล้วคือ จะจิ้มกับอะไรก็อร่อย ทั้ง 9 อย่าง
( อยากให้ลองทุกอย่างค่ะ อร่อยคนละแบบเลยนะ )
ถ้ามาลองเทสต์เนื้อทั้ง 3 ชนิดนี้แล้ว เกิดติดใจแบบไหนเป็นพิเศษ
จะสั่งแบบอะลาคาร์ทเพิ่มอีกก็ได้ค่ะ
เมนู Steak Tasting Set หลังจากที่กินเสร็จแล้ว
สำหรับมิกิ ชอบ Kobe wine A5 มากกว่า ตรงที่รู้สึกว่ามีความนุ่ม รสออกหวาน มีความเบาไม่หนักมาก
ส่วนป๊า ชอบ Kagoshima Wagyu A5 ความนุ่ม ไขมันละลาย รสชาติเข้มข้นมาก
อันนี้ก็แล้วแต่ว่าเราชอบรสแบบไหน แต่ว่ารวม ๆ แล้วคืออร่อยมากทุก ๆ แบบเลยค่ะ

ตอนที่มาเสิร์ฟคือกลิ่นล็อปเตอร์หอมลอยมาเลย หอมมาก ๆ
มาพร้อมซอสพริกสูตรพิเศษ . . . เผ็ดมากเป็นพิเศษ สำหรับคนที่ชอบรสชาติแบบไทย ๆ
( แต่มิกิไม่ได้ใส่ซอสลงไป แค่ชิมเฉย ๆ เผ็ดจนตกใจ )



เป็นรสหวานเบา ๆ เค็มนิด ๆ มีความมันนุ่ม ซดได้จนหยดสุดท้าย


เมนูนี้ต้องกินตอนที่กำลังอุ่น ๆ จะได้รสชาติที่ดีกว่าทิ้งให้เย็นแล้ว
ตัวเนื้อเค้กนุ่ม ๆ หยุ่น ๆ หวานน้อย
พอกินพร้อมซอสท๊อฟฟี่คาราเมลที่หอมมาก เลยเข้ากันได้ดีมาก ๆ
คาราเมลจะเคี่ยวมากับเนย ครีม จะได้กลิ่นที่หอมสุด ๆ ความหวานกลาง ๆ ( ไม่หวานแสบคอ )

( ป๊ามิกินี่สายของหวานเลย แต่ก็ดูแลสุขภาพสุด ๆ เหมือนกันนะ )
ถือว่าเป็นของหวานที่รสชาติดีมากๆ รสแบบถูกใจทั้งวัยรุ่น และ ผู้ใหญ่
ครบแล้ว 9 เมนูของ Set Wagyu Lab J Signature grande
ทั้งคุณภาพวัตถุดิบ ความหลากหลาย รสชาติ กรรมวิธีทำ กับ เรื่องราวที่เชฟเล่าให้ฟังเพลิน ๆ
รู้สึกคุ้มค่าค่ะ ราคาสมเหตุสมผลนะ

ความรู้แน่น เทคนิคเพียบ
คุยเพลินดี ใครที่กินข้าวคนเดียวบ่อย ๆ ลองไปแล้วชวนคุยกับเชฟก็สนุกดีค่ะ


ถ้ามาแล้วสั่งเนื้อ มิกิอยากให้มานั่งที่บาร์นะ เพราะว่าเชฟชวนคุยสนุกมาก
อาหารแต่ละเมนู มีที่มา บางอย่างคือดูเหมือนทำง่าย ๆ
แต่พอรู้ขั้นตอนแล้วก็ต้องร้อง โอ้โห . . . มานั่งกินที่ร้านก็ได้ คุ้มกว่า



ในร้าน Wagyu Lab J ก็มีวัตถุดิบขาย ทั้งเนื้อ เครื่องดื่ม อาหารทะเล



เป็นเนื้อที่นุ่มและเข้มข้นกว่าเนื้อปกติ

เป็นเมนูแบบเดลิเวอรี่ ที่กึ่ง ๆ แบบเกือบพร้อมกิน
เชฟจะย่างและซูวีเนื้อไว้ให้แล้ว เราแค่เอาไปย่างบนกระทะอีกนิดหน่อยก็พร้อมกิน
ไม่จำเป็นต้องมีฝีมือ หรือ เทคนิค ก็อร่อยแบบมานั่งกินที่ร้าน
ตอนนีมีให้เลือก 2 อย่าง
• Dry-aged Australian Wagyu Ribeye (230 กรัม) 1900 บาท
เนื้อสเต็กรสเข้ม ชุ่มฉ่ำ หอมเนื้อ
• Hokkaido F1 Tenderloin (135 กรัม) 1500 บาท
มันน้อยแต่เนื้อนุ่มตามสไตล์สันใน
ในกล่องมีซอส ขนมปังกระเทียม กับ เครื่องวัดอุณหภูมิ มาให้ด้วย
( สั่งก่อน 15:00 น. จัดส่งภายในเย็นวันเดียวกัน สั่งหลัง 15:00 น. จัดส่งวันต่อไปน้า )


คุณภาพดูน่ากินมาก ๆ แค่เจอสีส้มแบบนี้ก็หิวแล้วค่ะ สีของความอร่อยเลยล่ะ

มิกิก็ชอบมากเหมือนกัน เวลาไปเท่ี่ยวญี่ปุ่นคือต้องหาเรื่องกินได้ทุกวัน
ทีนี้พอมาที่ไทย อาจจะหาซื้อยากหน่อย มาเจอแบบนี้ก็ซื้อกลับบ้านแบบไม่ต้องคิดเลย
ราคาถือว่าดีมากด้วยนะ
แล้วหลังจาก Post รูปนี้ลงในเฟสบุ๊ค ก็มีเพื่อนที่เป็นครูสอนภาษาญี่ปุ่นมาคอมเม้นต์บอกว่า
เมนไทโกะแบรนด์นี้คือเด็ดสุด เพราะเชฟหลาย ๆ ที่ก็บอกมา
รู้สึกโชคดี ที่ตัดสินใจซื้อกลับมาด้วย > . <
กินกับข้าวสวยร้อน ๆ นี่คือที่สุด

ห้องน้ำที่นี่สะอาด แล้วก็ให้ความรู้สึกเหมือนเวลาไปกินอาหารในร้านดี ๆ ที่ญี่ปุ่นเลย

ถือว่าให้ความสำคัญกับลูกค้าได้น่ารักดี

เป็นที่นั่งแบบชิล ๆ สบาย ๆ เหมาะกับมานั่งกินไปด้วย รับลมไปด้วยช่วงเย็น ๆ

จะมีทั้งแบบอะลาคาร์ท กับ เซทเมนู





จะได้ลองเมนูเด็ดของทางร้านหลาย ๆ อย่างในราคาที่คุ้มมาก แบบมากจริง ๆ นะ

เซทเริ่มต้น 6 เมนู

เซทอาหาร 8 เมนู สำหรับ 2 คน

ที่กินวันนี้เป็น Set นี้เลย
รู้สึกว่าคุ้มมาก ๆ
ยังได้อาหาร กับ ของหวานอื่น ๆ อีกรวมตั้ง 9 เมนู เป็นอะไรที่คุ้มสุด
กิน 2 คนอิ่มกำลังพอดีเลย

อยากให้ลองมาที่นี่กันนะคะ เราจะได้มากกว่าความอร่อย
เพราะบรรยากาศในร้านนั่งสบาย ๆ บริการน่ารัก เชฟชวนคุยสนุก ๆ ( ได้ความรู้ใหม่ ๆ ด้วย )
นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูอื่น ๆ ที่นอกจากเนื้อด้วย กับ วัตถุดิบนำเข้าจากญี่ปุ่นที่เราซื้อไปทำเองที่บ้านได้เลย
มิกิว่าถ้าจะเลือกมาดินเนอร์กับแฟนที่วากิวแลปเจก็เหมาะนะ โดยเฉพาะแบบ Set Menu
สั่งมาแบ่งกัน เหมือนได้มีกิจกรรมร่วมกันดี ^ ^
ส่วนคนโสดไม่ต้องน้อยใจ เพราะสั่งแบบอะลาคาร์ทก็ยังมีเชฟชวนคุยเป็นเพื่อน
จะมาเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน ในวันพิเศษ โอกาสฉลอง หรือ วันเกิด . . . เกิดอยากจะกิน ( แบบมิกิ )
ไม่สะดวกมาที่ร้านก็มี Delivery ด้วย
🚗 การเดินทาง
รถไฟฟ้า ทองหล่อ พร้อมพงษ์ ต่อแทกซี่หรือมอเตอร์ไซค์ไปที่โครงการพิมาน 49
การขับรถ จากเส้นสุขุมวิทขับรถเข้าซอย 49 โครงการพิมานมีที่จอดรถให้บริการ
เมื่อประทับตราใบจอดรถ จะจอดฟรีได้ 1.5 ชั่วโมง
เปิดวัน อังคาร – อาทิตย์ : 11.00 – 22.00 น.
Facebook : https://www.facebook.com/WagyuLabJ
Line Official : https://lin.ee/wTLcxt9
Lineman: http://bit.ly/366yj1d
Foodpanda : https://bit.ly/2NAlzK7
Tel : 02-1238703
โปรโมชั่น
Meat at first sight แคมเปญ – จองโต๊ะผ่านช่องทางใดก็ได้
ได้รับเครื่องดื่มสุดพิเศษ Kiss from a rose ตลอดเดือนกุมภาพันธ์
การชำระเงิน เงินสด โอน บัตรเครดิต
➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖➖
ช่องทาง SNS อื่น ๆ ของมิกินะคะ
IG ✿ Mikittykat
Twitter ✿ @MikiMisasaki
Youtube ✿ http://www.youtube.com/c/MikiMisasaki
Tiktok ✿ https://vt.tiktok.com/rW8yPb
Page ✿ https://www.facebook.com/Misasaki.in.wonderland
แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้าค่ะ